
วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 คณะกรรมการบริษัทอาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ชุดที่มี นายสุธรรม โตทับเที่ยง เป็นประธานกรรมการ ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ตามที่ นายไกรสิน โตทับเที่ยง ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งถือหุ้นจำนวน 69,457,000 หุ้น (อ้างอิงข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 13 มีนาคม 2566) คิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัท ได้ยื่นขอใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 100 ให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณากำหนดวาระการประชุม และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้ง 1/2566
โดยวาระการประชุมครั้งนี้ นายไกรสินเสนอให้ พิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงจำนวนกรรมการบริษัทจากที่ปัจจุบันมีอยู่ 15 คน ให้ลดลงเหลือเป็น 7 คน พร้อมเสนอชื่อกรรมการชุดใหม่ แทนกรรมการชุดเดิมจำนวน 7 คน โดยเสนอรายชื่อประกอบด้วย นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง นายไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง นางสาวมัลลิกา ไมตรีภิรมย์ นายทวีศักดิ์ นารายณ์ประทาน พล.ต.อ.ชาญ รัตนธรรม นายวารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ และ นายสมชาย คุรุจิตโกศล และเสนอให้พิจารณาเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ กำหนดชื่อ และจำนวนกรรมการซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ประกอบด้วย นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง นายไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง และ นางสาวมัลลิกา ไมตรีภิรมย์
แต่ปรากฏว่าก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสุธรรม ในฐานะประธานที่ประชุม ได้หารือในข้อกฎหมาย เรื่องสิทธิในการเข้าประชุม โดยมีประเด็นเนื่องจาก บริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด ทำหนังสือท้วงในเรื่องที่นายสุรินทร์ ไปโอนหุ้นของบริษัท กว้างโฮลดิ้ง เป็นชื่อของนายสุรินทร์ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเปิดโอกาสให้ทางนายสุรินทร์ชี้แจง แต่นายสุรินทร์และผู้แทนไม่ขอชี้แจง
นายสุธรรมจึงวินิจฉัยว่า แม้จะปรากฏชื่อของนายสุรินทร์เป็นผู้ถือหุ้นกว่า 247 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 48% ในระบบของ TSD แต่เนื่องจากทางบริษัท กว้างโฮลดิ้ง ยืนยันว่า การขายทอดตลาดของหุ้นจำนวนดังกล่าวเป็นโมฆะ การนำหุ้นส่วนนั้นไปโอนเป็นชื่อของนายสุรินทร์ในระบบ TSD ของตลาดหลักทรัพย์จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ วินิจฉัยว่าในส่วนของหุ้นจำนวนกว่า 247 ล้านหุ้นดังกล่าว แม้จะมีชื่อในระบบ TSD แต่ต้องถือว่าเป็นการโอนมาโดยไม่ชอบ ในการออกเสียงลงคะแนนของหุ้นในส่วนนี้จึงยังคงเป็นของบริษัท กว้างโฮลดิ้ง
ทั้งนี้ นายไกรฤทธิ์ โตทับเที่ยง ได้มีการแสดงความเห็นว่า การไม่ให้สิทธิในการประชุมและลงมติกับผู้ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในระบบทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ อาจจะทำให้การประชุมในครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม นายสุธรรม ยืนยันวินิจฉัยว่า นายสุรินทร์ไม่สามารถใช้สิทธิในส่วนของหุ้นจำนวนดังกล่าวได้ โดยให้เป็นสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนยังคงเป็นของบริษัท กว้างโฮลดิ้ง
ทำให้ในการลงมติออกเสียงทั้ง 3 วาระตามที่นายไกรสินเสนอนั้น ไม่ได้รับการอนุมัติ คณะกรรมการบริษัทอาหารกว้างไพศาล จึงยังคงเป็นชุดเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ประเด็นผู้มีสิทธิในหุ้นจำนวนกว่า 247 ล้านหุ้น ควรเป็นสิทธิของใคร เนื่องจากตามระบบของ TSD เป็นชื่อของนายสุรินทร์ ในขณะที่บริษัท กว้างโฮลดิ้ง ก็อ้างสิทธิว่าเป็นการได้มาซืึ่งหุ้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น กรณีนี้จึงมีโอกาสที่จะเป็นข้อขัดแย้งและเกิดเป็นคดีความตามมา ซึ่งเท่ากับว่า กรณีศึกสายเลือดตระกูลโตทับเที่ยง ยังไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอน