
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยปี 2562 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,201 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า 88.1% เป็นหนี้ ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการใช้จ่ายทั่วไป ซื้อยานพาหนะ ซื้อบ้าน จ่ายบัตรเครดิต เพื่อประกอบอาชีพและเป็นหนี้เก่า ทำให้สภาพหนี้ครัวเรือนปีนี้มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 7.4 หรือเฉลี่ยประมาณ 340,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย 79.8% เป็นหนี้ในระบบ และ 8% เป็นหนี้นอกระบบ
นายธนวรรธน์ยอมรับว่า จำนวนหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อครัวเรือนเป็นประวัติการณ์นั้น มีความน่ากังวล เพราะเป็นปัญหามาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวจากเศรษฐกิจโลก โดยปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัว 2.5-2.6% ซึ่งนับว่าเป็นเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่า 3% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ส่งผลกับรายได้ของประชาชน จนทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องมีการก่อหนี้เพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ฉะนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศไทยสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงกลางไตรมาส 1 ปี 2563 หากยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น
สำหรับสัดส่วนหนี้ครัวเรือนล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 78 ต่อจีดีพี.