(210622) — WELLINGTON, June 22, 2021 (Xinhua) — Photo taken on June 22, 2021 shows a view of Mount Taranaki in New Zealand. (Xinhua/Lu Huaiqian)
เวลลิงตัน, 9 ก.ค. (ซินหัว) — วันศุกร์ (9 ก.ค.) มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ได้เผยแพร่ผลการศึกษาซึ่งชี้แนะว่าสามารถลดอัตราการเกิดภาวะสมองเสื่อม (dementia) ที่กำลังเพิ่มขึ้นของนิวซีแลนด์ได้ ด้วยการกำหนดปัจจัยเสี่ยงที่อาจปรับเปลี่ยนได้ 12 ประการ ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามกลุ่มชาติพันธุ์
สถิติแสดงการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมในนิวซีแลนด์จะเพิ่มขึ้นจาก 70,000 รายในปี 2021 เป็น 170,000 รายในปี 2050 อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสารเดอะแลนเซ็ต – สุขภาพประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก (The Lancet -Regional Health Western Pacific) ระบุว่าหลายกรณีสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการลดปัจจัยสนับสนุน อาทิ การสูญเสียการได้ยิน การสูบบุหรี่ โรคซึมเศร้า โรคอ้วน ภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม และการขาดกิจกรรมทางกาย
อีตูอินี มาอู (Etuini Ma’u) อาจารย์อาวุโสประจำภาควิชาเวชศาสตร์จิตวิทยา คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ กล่าวว่าผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมในนิวซีแลนด์เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเคสที่สามารถป้องกันได้ โดยศักยภาพในการป้องกันนั้นสูงยิ่งขึ้นในหมู่ชาวเมารีและชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
ผลการศึกษาระบุว่า “เนื่องจากไม่มีวิธีรักษาภาวะสมองเสื่อม การป้องกันจึงเป็นหนึ่งในงานสำคัญของภาคสาธารณสุข เพื่อหยุดยั้งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้ป่วย”
อย่างไรก็ดี มาอูระบุว่า ไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ตายตัวสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน โดยจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การลดภาวะสมองเสื่อมให้สอดคล้องกับปัจจัยเสี่ยงที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุด ของประชาชนในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์