“ลีเดีย-แมทธิว” รับงานพรีเซนเตอร์ สีทาบ้านต้านไวรัส พร้อมเผยประสบการณ์ตรงรับมือโคโรนา

เหมาะสมกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว สำหรับบทบาทพรีเซนเตอร์สีทาบ้านต้านไวรัสของคู่รักสุดหวานแห่งวงการบันเทิง แมทธิว ดีน กับภรรยาคนสวยลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ที่ควงคู่กันมารับงานพรีเซนเตอร์สี “เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส” สีทาภายในรายแรก และรายเดียวของประเทศไทยที่เลือกใช้นวัตกรรมสุดล้ำ โกลด์ ไอออน ให้ทั้งความสะอาดและกำจัดเชื้อโคโรนาไวรัส พร้อมผลการรับรองจากสถาบันสุขภาพระดับโลก โดยล่าสุดทางเบเยอร์ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ ซึ่งงานนี้ทั้งคู่ได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์การหลังต่อสู้กับเชื้อโคโรนาไวรัส พร้อมการเตรียมตัวดูแลกำจัดเชื้อโรคภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว

ลีเดีย เผยว่า “หลังจากผ่านประสบการณ์จริงของการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว ตอนนี้แม้ว่าสภาพร่างกายของคุณแมทธิวกลับมาได้เต็มร้อย แต่อย่างของเราเองปอดก็ยังทำงานไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ดี ซึ่งเราทั้งคู่ก็ยังไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องการใช้ชีวิตในภาวะที่ทั้งโลกยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่มีวัคซีนตัวไหนออกมารักษาได้ โดยส่วนตัวก็ยอมรับว่าความวิตกกังวลต่าง ๆ ยังมีอยู่มาก เพราะลูกสองคนก็ยังเล็กอยู่ เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาวิธีปกป้องลูก และครอบครัวให้ได้มากที่สุด พอทางสีเบเยอร์มาคุยงานเรื่องพรีเซนเตอร์สีต้านไวรัส ทางเราก็สนใจว่ามันป้องกันได้จริงหรอ เราขอข้อมูลเรื่องงานวิจัยต่าง ๆ จากทางเบเยอร์มาดูด้วยนะ ว่าน่าเชื่อถือได้จริง ๆ ก่อนตกลงใจเลือกเซ็นสัญญารับงานพรีเซนเตอร์”
ทางด้าน แมทธิว กล่าวเสริมว่า “หลังจากกลับมาบ้านก็เร่งดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ได้มากที่สุดครับ เรื่องความสะอาดตอนนี้คือมาอันดับหนึ่งเพราะห่วงลูก ๆ ยิ่งผมทำงานนอกบ้านเยอะ ความระมัดระวังเรื่องการเอาเชื้อโรคเข้าบ้านก็ยิ่งเยอะมาก ๆ เรียกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าต้องคลีน ยิ่งในบ้านยิ่งต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ตอนนี้ก็ไล่ทาสีใหม่ เพื่อความสบายใจมากขึ้น และถือโอกาสปรับปรุงพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัวได้ปลอดภัยมากขึ้นด้วยครับ”

สำหรับสี “เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส” (BegerShield Anti-Virus) มาพร้อมนวัตกรรมอันป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเบเยอร์ที่ให้มากกว่าสีทาภายใน ตอกย้ำความเป็นผู้นำสีนวัตกรรมตัวจริง ด้วยคุณสมบัติกำจัด Human Coronavirus NL63 ได้จริง โดย โกลด์ ไอออน (Gold Ion Technology) เป็นอนุภาคแร่ทองคำบริสุทธิ์ มีขนาดเพียง 30 นาโนเมตร และเล็กกว่าโคโรนาไวรัสถึง 4 เท่า จึงสามารถเจาะทะลุทะลวงผ่านเยื่อหุ้มที่เป็นผนังชั้นไขมันที่หนา เข้าไปทำลายสารพันธุกรรมถึงแกนกลาง ทำให้ไวรัสไม่สามารถเติบโต และแพร่เชื้อได้จึงสลายไปในที่สุด

The short URL of the present article is: https://wealthnbiz.com/Rm7gn

Read Previous

‘สื่อไทย-จีน’เยี่ยมเมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งใหญ่สุดในโลก

Read Next

นักร้องหนุ่ม”แสตมป์ อภิวัชร์” ชวนสมาชิก “Blue Card” ร่วมวิ่งการกุศลในงาน “Blue Card วิ่งส่งความสุข ปี 3”