รายงานข่าวจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ค่าเล่าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอังกฤษค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป คืออยู่ที่ประมาณ 9,000 ปอนด์ หรือประมาณ 393,240 บาท ต่อปี ซึ่งเรื่องนี้มีผลให้พรรคแรงงาน ฝ่ายค้านหลักของอังกฤษ ได้รับเสียงสนับสนุนจากบรรดานักศึกษา ในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว จากการประกาศว่าจะยกเลิกการเก็บค่าเล่าเรียนในอนาคต
ขณะที่ นายเดเมียน ไฮน์ส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอังกฤษ ได้เสนอแนวคิดให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศควรเก็บค่าหน่วยกิต ตามอัตราที่สะท้อนมูลค่าทางเศรษฐกิจของใบปริญญาบัตร โดยความคิดเห็นนี้มีขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มทำการทบทวน การจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการเล่าเรียนระดับอุดมศึกษา
อย่างไรก็ตาม นายไฮน์ส ได้กล่าวถึงหลักการในการเก็บค่าเล่าเรียน ว่าต้องแยกค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ระหว่างเงินภาษีกับเงินของนักศึกษา โดยต้องการที่จะเห็นความหลากหลายมากขึ้น ในแนวทางอุดหนุนการเรียนในระดับอุดมศึกษา ในขณะที่การทบทวนงบประมาณอุดหนุนอุดมศึกษา ก็ควรจะมีการพิจารณาความเหมาะสมของอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ยืมที่นักศึกษานำไปเป็นค่าหน่วยกิตและค่าครองชีพด้วย
“เกือบทุกสถาบันเก็บค่าหน่วยกิตในอัตราสูงสุดเหมือนกัน ในเกือบทุกสาขาวิชา ซึ่งผมต้องการเห็นทางเลือกด้านราคามากกว่านี้ เนื่องจากบางสาขาได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าสาขาอื่นๆ ในการเข้าทำงานหลังจบการศึกษาแล้ว”รัฐมนตรีศึกษาของอังกฤษกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลอังกฤษคาดหวังจะได้เห็นการลดค่าหน่วยกิต ในสาขาวิชาสังคมศาสตร์ และศิลปศาสตร์ ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าในการเตรียมการสอน