เงินสะพัดบน ‘เส้นทางสายไหมทางทะเล’ หนุน ‘เศรษฐกิจวงจรคู่’ ของจีน

ปักกิ่ง, (ซินหัว) — นับตั้งแต่มณฑลฝูเจี้ยนของจีนเปิดตัวข้อริเริ่ม ‘เส้นทางสายไหมทางทะเล’ ในปี 2018 โครงการนี้มีการเติบโตที่แข็งแกร่งและกลายเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญในการผลักดัน ‘เศรษฐกิจวงจรคู่’ ของตลาดในประเทศจีนและต่างประเทศ

แม้ว่าภูมิทัศน์เศรษฐกิจทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่การค้าระหว่างฝูเจี้ยนกับประเทศและภูมิภาคต่างๆ ในข้อริเริ่มเส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) ยังคงสูงถึง 4.12 แสนล้านหยวน (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบเป็นรายปี และเมื่อนับถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ มีการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางการขนส่งที่เรียกชื่อว่าเส้นทางสายไหมทางทะเลราว 9,014 เที่ยว คิดเป็นปริมาณการขนส่งตู้สินค้ารวม 10.182 ล้านทีอียู (TEU: หน่วยนับสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ความยาว 20 ฟุต)

ปีนี้ มีความคืบหน้าต่างๆ เกิดขึ้น เช่น การประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศเส้นทางสายไหมทางทะเล (Silk Road Maritime International Cooperation Forum) ประจำปี 2022 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ย. การเปิดตัวบริการอี-คอมเมิร์ซเส้นทางสายไหมทางทะเลเมื่อเดือนมิถุนายน และการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่เพื่อเชื่อมต่อสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในเดือนมกราคม

ด้วยการประสานงานกับเส้นทางการค้าระหว่างประเทศทางบก-ทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) และบริการรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรป โครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลยังส่งเสริมมณฑลฝูเจี้ยนในการสร้างช่องทางการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเมื่อปี 2021ปริมาณสินค้าเทกองจากนอกมณฑลซึ่งเป็นสินค้าที่ขนส่งแบบหลากหลายผ่านทางราง-ทางทะเล ที่บรรดาท่าเรือของฝูเจี้ยนรองรับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5 จากปีที่แล้ว และปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ของเส้นทางการขนส่งแบบผสานทางราง-ทางทะเลในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบปีต่อปี

เฉินจื้อผิง ประธาน บริษัท ท่าเรือมณฑลฝูเจี้ยน กรุ๊ป จำกัด (Fujian Provincial Port Group Co., Ltd.) กล่าวว่าข้อริเริ่มเส้นทางสายไหมทางทะเล มีเป้าหมายเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานผ่านการบ่มเพาะช่องทางการขนส่งแบบครอบคลุมที่ขยายกว้างออกไปทั้งในและต่างประเทศ

เรียบเรียงโดย Yu Huichen, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/330030.html