เอสเอ็มอีไทย โอกาสเจาะตลาดแดนมังกร

สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกันจัดเสวนาโต๊ะกลม “ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ศักยภาพและโอกาสเจาะตลาดแดนมังกร” โดยมุ่งวิเคราะห์ข้อมูล ศักยภาพ และความน่าสนใจของตลาดจีน เพื่อโอกาสของธุรกิจเอสเอ็มอีไทย

โดย นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มองว่าการติดปีกธุรกิจเอสเอ็มอีไปต่างแดน อีก2ปีข้างหน้าเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นธุรกิจเอสเอ็มอีจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาในด้านต่าง ๆ ทั้งสินค้า การตลาด หรือแม้แต่เรื่องของภาษา เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่เรื่องทุนและความรู้ทางแบงก์ ธพว.พร้อมที่จะสนับสนุน เป็นไม้ค้ำยันให้

ขณะที่ในการเสวนา วิทยากรประกอบด้วย ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้ช่วยรองอธิการบดีสายงานวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นายชาตรี  เวทสรณสุธี  ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการและร่วมลงทุน 2 ธพว. นายสุจินต์ พิทักษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมฯ กลุ่มเซรามิก นายธารากร วุฒิสถิรกุล เลขาธิการสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้านเศรษฐกิจและการค้า อาเซียน  โดยมี นายภูวนารถ ณ สงขลา อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เป็นผู้ดำเนินรายการ

ดร.เกียรติอนันต์ ได้ให้ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจจีน ว่าแม้จะมองว่าเศรษฐกิจจีนช่วงที่ผ่านมาชะลอตัวลงบ้าง แต่ในภาพรวมยังคงเติบโตมากและต่อเนื่อง ที่สำคัญตลาดจีนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผู้ส่งออกทั่วโลกล้วนต้องการเจาะตลาดจีน ดังนั้นไทยควรจับมือกับประเทศจีนให้มากขึ้น ส่วนเอสเอ็มอีไทยจะ ต้องมีความเข้าใจตลาด ต้องมีคู่ค้าชาวจีน  ต้องมียุทธศาสตร์  ต้องมีเงินสำรอง/แหล่งทุน  รวมทั้งต้องมีสินค้าที่โดนใจ

นายชาตรี  ก็มองว่า สินค้าOTOPของไทยเป็นสินค้าที่นิยมของนักท่องเที่ยวจีน การที่คนจีนรวยขึ้นทุกปี ถือเป็นโอกาสสำคัญของภาคธุรกิจไทย  ในการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีความเข้มแข็ง จึงต้องมุ่งพัฒนาการผลิต  มุ่งออนไลน์ มุ่งปรับตัวให้ทันสถานการณ์  มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านความรู้ โดยที่ทางแบงก์พร้อมที่จะสนับสนุนทางด้านการเงิน

นายสุจินต์ ให้ความเชื่อมั่นว่า ธุรกิจเซรามิกของไทยมีโอกาสเจาะตลาดจีนได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เบญจรงค์ เนื่องจากไทยมีฝีมือในการเขียนลวดลาย และยังมีความพร้อมที่สามารถพัฒนาไปบุกตลาดจีนได้อีกมาก

นายธารากร ระบุว่า  จากยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมของจีน  ประเทศไทยถือว่าได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์มาก ๆ แต่เอสเอ็มอีไทยต้องตื่นตัว เพิ่มนวัตกรรมของสินค้า  ปรับเปลี่ยนวิธีการค้า โดยมุ่งไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่ถนัด เช่น  สินค้าอาหารทะเล สินค้าสุขภาพ สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าฮาลาล สินค้าเครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูปของขบเคี้ยว ธุรกิจร้านอาหาร  รวมทั้งต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี อย่างตอนนี้ประเทศจีนแทบจะไม่ใช้จ่ายด้วยเงินสดแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นการใช้จ่ายออนไลน์ ดังนั้นถ้าจะค้าขายกับจีนก็ต้องปรับตัวให้ทัน และควรหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นฝ่ายจีนด้วย

The short URL of the present article is: https://wealthnbiz.com/r7UfZ

Read Previous

แบรนด์ไทย.. แบรนด์ ‘ชาวเกาะ’ รุกตลาดโลกด้วยกลยุทธ์คุณภาพ

Read Next

ผ้าขาวม้าไทยโกอินเตอร์ เฉิดฉายบนงานระดับโลก Amazon Fashion Week TOKYO 2017