แบรนด์รถไฟฟ้าจีนตบเท้าบุกตลาดอาเซียน

แฟ้มภาพซินหัว : ผู้ชมงานทดลองใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะสัญญาณ 5G ณ ศูนย์เทคโนโลยีรถยนต์ฮาวาล ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส (GWM) ในเมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีน วันที่ 15 ก.ค. 2021

โรงงานในไทยของบริษัทเกรท วอลล์ มอเตอร์ส เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกที่ดำเนินการ ทั้งในด้านการผลิต ยอดจำหน่าย และการดำเนินงาน ที่สำคัญคือรถยนต์ของแบรนด์ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทย อ้างอิงจากคำกล่าวของ จางเจียหมิง ประธานฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคอาเซียนของบริษัทฯ ซึ่งมุ่งขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติม โดยมีการดำเนินงานในไทยเป็นตัวอย่าง บริษัทฯ ระบุว่าหลังจากลงหลักปักฐานในประเทศไทย บรูไน ลาว และเมียนมาแล้ว จะมุ่งรุกตลาดมาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของบรรดาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีน โดยก่อนหน้านี้ บีวายดี หนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของจีน ได้ลงนามในข้อตกลงการจัดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพลังงานใหม่กับไซม์ ดาร์บี้ มอเตอร์ส มาเลเซีย (Sime Darby Motors) ในตลาดมาเลเซีย

โฮซอน ออโต เพิ่งเปิดตัวรถยนต์พวงมาลัยขวารุ่น เนตา วี (Neta V) ในตลาดไทยไปไม่นานนี้ ซึ่งถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเทครุ่นแรกที่เข้าสู่ตลาดไทย โดยโฮซอน ออโต ยังได้จดทะเบียนในลาว และดำเนินการในเมียนมาแล้วเช่นกัน โดยบริษัทฯ ระบุว่าจะรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง

มุ่งผลิตด้วยชิ้นส่วนและแรงงานในท้องถิ่น (Localization)

จุดเด่นสำคัญในการบุกตลาดอาเซียนของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์คือการมุ่งเพิ่มอัตรา localization อันหมายถึงการใช้พนักงานและชิ้นส่วนที่ที่ผลิตภายในประเทศนั้นๆ อย่างเช่น เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ที่ซื้อโรงงานประกอบรถยนต์ในจังหวัดระยองของไทยจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) บริษัทผลิตรถยนต์สหรัฐอเมริกา และปรับปรุงให้เป็นสายผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ ที่มีกำลังการผลิตรถ 80,000 คันต่อปี โดยบรรดาบริษัทจีนยังให้ความสำคัญกับการออกแบบ การวิจัยและพัฒนา (R&D) ยานยนต์พลังงานใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในท้องถิ่นด้วย

ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนยังส่งเสริมการพัฒนายานยนต์พลังงานใหม่ของท้องถิ่นด้วยการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการชาร์จ เช่นสถานีชาร์จเร็ว “จี-ชาร์จ” (G-Charge) ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ในกรุงเทพฯ โดยให้บริการชาร์จแบบ 24 ชั่วโมง แก่ผู้ใช้ชาวไทย ขณะที่แบรนด์ไอเวยส์ก็กำลังสร้างเครือข่ายการชาร์จพลังงานในประเทศลาว

อนาคตยังไปได้สวย

ตลาดรถยนต์ของจีนยังคงมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนก็ถือว่ามีพลวัตมากที่สุดในโลก โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความน่าดึงดูดสำหรับบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าของจีน เนื่องจากเศรษฐกิจค่อนข้างมีเสถียรภาพและมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน

นักวิเคราะห์ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์คาดว่าตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงมีศักยภาพมาก ยกตัวอย่างเช่นประเทศไทยที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมหลัก และมีมาตรการต่างๆ ในการสนับสนุนการบริโภคยานยนต์พลังงานใหม่ ตลอดจนนโยบายที่เอื้ออำนวยด้านภาษี หรืออากร และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลกให้มาลงทุน

ทั้งนี้ ไทยตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 สัดส่วนการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศจะแตะที่ร้อยละ 30 ของยอดผลิตทั้งหมดและ ภายในปี 2035 รถยนต์ที่ผลิตในไทยทั้งหมดจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่

เรียบเรียงโดย Li Shimeng, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/331189.html

The short URL of the present article is: https://wealthnbiz.com/y3u6a

Read Previous

“เชาจี๋” สถานีชาร์จไวสำหรับ NEV ทดลองเปิดใช้ครั้งแรกบนทางด่วนเทียนจิน

Read Next

BYD ร่วมกับ DPU ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีทางการเงิน Robot Trading