เร่เข้ามาจะพาไปเลือก “เทรนเนอร์คุณภาพ” ชีวิตจะปลอดภัยไร้กังวล

ในปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับการออกกำลังกายในประเทศไทยนั้น เติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว จะสังเกตได้ว่า มี Gymใหม่ๆหลายแห่งเกิดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้า ที่สนใจในการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพของตนเอง นับเป็นเรื่องที่ดี ถึงแม้การเติบโตของ Gym นั้นจะเพิ่มมากขึ้นรวดเร็ว แต่ก็มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ บุคคลากรผู้ให้ความรู้อย่างถูกต้องในการออกกำลังกาย หรือ ที่เรียกว่า “เทรนเนอร์” (Trainer) มีน้อยมาก หากเทียบกับการเติบโตของ Gym

ในปัจจุบัน กฏหมายในประเทศไทยนั้นยังไม่มีการระบุชัดเจนว่าการเป็น”เทรนเนอร์”นั้นจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ”เทรนเนอร์” ที่ชัดเจน เหมือนอาชีพหมอ อาชีพครู เป็นต้น การเลือกเทรนเนอร์ของ ผู้ที่สนใจในการออกกำลังกายนั้น จึงเปรียบเสมือนการเสี่ยงโชค หากได้เทรนเนอร์ที่มีความรู้ความสามารถถูกต้องชัดเจน นับว่าเป็นสิ่งที่ดีแก่ลูกค้า แต่หาก ได้”เทรนเนอร์” หรือบุคคลที่บอกว่าตัวเองว่าเป็น”เทรนเนอร์” แต่ขาดความรู้สามารถความเข้าใจเกี่ยวกับระบบต่างๆในการออกกำลังกาย อาจส่งผลเสียแก่ลูกค้าเช่น มีอาการบาดเจ็บในส่วนต่างๆของร่างกาย ลักษณะทางกายภาพผิดเพี้ยน หรือ อาจถึงตายก็มี

ดังนั้นการเลือกเทรนเนอร์นั้น มีความสำคัญมาก ไม่ต่างอะไรจากการไปหาหมอ แต่ที่ต่างกันคือหมอมีใบประกอบวิชาชีพที่ชัดเจนการไปหาหมอจึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ที่น่าห่วงคือ เทรนเนอร์ ยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพถึงแม้จะยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่ในประเทศไทยก็ยังมีมหาวิทยาลัยสายวิทยาศาสตร์การกีฬาและสถาบันสอนให้ความรู้อบรม เกี่ยวกับการเป็นเทรนเนอร์หลายๆแห่ง การอบรมก็จะประกอบด้วย “จรรยาบรรณ” และ”ความรู้ ความสามารถ” ในด้านต่างๆที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพเทรนเนอร์ เมื่อผ่านการอบรมแล้วก็จะได้รับใบ”Certified Trainer” จะเป็นการการันตีความรู้ความสามารถ ของเทรนเนอร์นั้นได้อีกอย่างก็จะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกตัดสินใจใช้บริการเทรนเนอร์ได้ง่ายขึ้น

การเป็นเทรนเนอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ใครอยากจะเป็นก็เป็น เพราะมันหมายถึงสุขภาพชีวิตของคนหนึ่งคนที่ฝากไว้กับเรา การเทรนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องมีการ ประเมินสุขภาพสอบถามต่างๆเกี่ยวกับลูกค้าเพื่อ วางแผนและออกแบบโปรแกรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายของลูกค้า หากเทรนเนอร์คนไหนไม่ถามถึงสุขภาพ มาถึงจับเทรนเลย คิดได้เลยว่าไม่ควรเทรนต่อ จะเทรนได้อย่างไร เพราะเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวลูกค้า การพูดคุยสอบถามประเมินสุขภาพจะทำให้เทรนเนอร์รู้เข้าใจในตัวลูกเทรนมากขึ้น

บางคนมีโรคประจำตัว ซึ่งโรคบางโรคมีการเทรนที่แตกต่างกันออกไป แต่ละคนจะเทรนเหมือนกันไม่ได้ เช่นโรคหัวใจ ความดันโลหิต เบาหวาน คนมีอายุ น้ำหนักเกิน เด็ก เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนก็มีลักษณะทางกายภาพ ระบบต่างๆ ความแข็งแรงมากน้อยที่แตกต่างกัน นับเป็นหน้าที่ ที่สำคัญที่เทรนเนอร์จะต้องรู้และออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้กับลูกเทรน

เทรนเนอร์ในประเทศไทยมีหลายรูปแบบ ทั้งที่ผ่านการเรียนรู้ อบรม หรือโดยประสบการณ์ที่ยาวนาน ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ก็ต้องอาศัยการดูสังเกตให้ดีก่อนที่จะก่อนที่จะตัดสินใจ จ้างเทรนเนอร์คนนั้น เพราะหากตัดสินใจจ้างผิด หมายถึงชีวิตเปลี่ยนทันที รุนแรงแค่ไหน ก็คงเหมือนหมอจ่ายยาผิดให้กับเราเทรนเนอร์ ไม่ว่าจะหุ่นดีมีซิคแพค หรือไม่ดี ไม่ใช่ตัวชี้วัด ไม่ใช่สาระประเด็น สาระประเด็นที่สำคัญคือมีความรู้ให้ลูกค้า แค่นั้นพอ

หากใครที่คิดจะเป็นเทรนเนอร์ก็ควรที่จะต้องมี”จรรยาบรรณ” “ความรู้ความสามารถ”ต้องหมั่นเรียนรู้ และหมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอไม่ใช่เพื่อตัวเรา แต่เพื่อลูกเทรนหรือลูกค้าของเรา ให้สมกับที่เขาไว้ใจจ้างเรามาดูแลสุขภาพ ไม่ใช่จ้างเรามาเพื่อทำลายสุขภาพ

เรื่อง/ภาพ : สิทธิชัย ฐานทองดี เทรนเนอร์อิสระ

The short URL of the present article is: https://wealthnbiz.com/Q3V9U

Read Previous

สุขสันต์วันเกิด

Read Next

กรมสุขภาพจิต แนะใช้เทศกาลลอยกระทง เสริมความผูกพันในครอบครัว ปลูกฝังเด็กไทยรักษาสิ่งแวดล้อม