ปี 2565 ทั่วโลกยังคงพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากโรคระบาด แต่ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกวิเคราะห์ว่า ประเทศจีนช่วยให้เศรษฐกิจโลกดำเนินไปได้อย่างราบรื่นในไตรมาสแรกของปีนี้ และใช้การพัฒนาเพื่อแก้ไขความเสี่ยงและความท้าทายในการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ โดย GDP เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
โดยการวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน ของผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีของไทย เชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนควบคู่ไปกับแนวทางนโยบายที่ถูกต้อง ทำให้เศรษฐกิจของจีนเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาของเอเชียและโลก
เขากล่าวว่า “ในช่วงไตรมาสแรกของ 2565 เศรษฐกิจของจีนได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำหนดโดยจีนนั้นสูงมากสำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจีนสามารถทำได้ การฟื้นตัวและการพัฒนาเศรษฐกิจโลกขึ้นอยู่กับการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจฟังดูไม่ยุติธรรมสำหรับจีนเท่าไหร่นัก ที่จีนต้องแบกรับความรับผิดชอบอันหนักอึ้งของการพัฒนาเศรษฐกิจของโลก แต่มันคือความจริง”
ศาสตราจารย์เอชิ ชินโด (Eiichi Shindo) มหาวิทยาลัย Tsukuba (University of Tsukuba) ประเทศญี่ปุ่น มองว่าความสำเร็จทางเศรษฐกิจของจีนนั้นน่าชื่นชม และการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน โดยกล่าวว่า “จีนได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้างและประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ตอนนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เน้นย้ำอีกครั้งว่าจีนจะขยายการเปิดกว้างในระดับสูงซึ่งจะส่งเสริมจีนให้ บรรลุการก้าวกระโดดที่สูงขึ้น หากปราศจากจีนเศรษฐกิจโลกก็อาจตกต่ำได้”
Tan Kong Yam อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของรัฐบาลสิงคโปร์และศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ Nanyang Technological University เชื่อว่าเศรษฐกิจของจีนเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้โดยได้รับแรงกระตุ้นจาก นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน อย่างมาตรการทางการเงินที่สถาบันการเงินจีนช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดเล็ก วิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางในจีน
Prasoon Sharma ผู้อำนวยการ IG Centre for China Studies ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมอง (Think Tank) ระดับโลกในอินเดีย กล่าวว่าข้อมูลในปัจจุบันเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเป็นไปในเชิงบวก ซึ่งผู้กำหนดนโยบายรู้วิธีจัดการกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง โดยกล่าวอีกว่า
“ธนาคารและรัฐบาลของจีนกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และรัฐบาลกำลังเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะพัฒนาเร็วขึ้นและช่วยให้เศรษฐกิจจีนเติบโต”
Koong Lin Loong ประธานคณะกรรมการการเงินและวางแผน และประธานคณะกรรมการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งหอการค้าจีนและอุตสาหกรรมมาเลเซีย (The Associated Chinese Chambers of Commerce & Industry of Malaysia: ACCCIM) เชื่อว่าการเติบโตของ GDP จีน ที่ระดับ 4.8% นั้นดีมาก เพราะการเติบโต 4.8% เป็นประโยชน์ต่อมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เรารู้สึกซาบซึ้งกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้ และมาเลเซียต้องการการลงทุนระยะยาวจากจีน”
Froilan Calilung ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย University of Santo Tomas ในฟิลิปปินส์ กล่าวว่ามาตรการของจีนในการขยายการเปิดกว้างจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของจีนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเขาระบุว่า
“เมื่อพิจารณาถึงห่วงโซ่อุปทานและระดับการผลิตทั่วโลก ผมคิดว่าบทบาทของจีนจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความสามารถในการรวมเป็นหนึ่งของคนทั่วโลก ปัจจุบันจีนเป็นผู้นำในด้านต่างๆ เช่น นวัตกรรม อิเล็กทรอนิกส์ การลงทุน เป็นต้น ซึ่ง ถ้าทั่วโลกสามารถตามจีนได้ ผมคิดว่าจีนจะเป็นผู้นำที่ดีมาก”
https://tv.cctv.com/2022/04/24/VIDEBO8e4mxXts5clN4FBojG220424.shtml https://tv.cctv.com/v/v1/VIDExKuewrcu3rdNFJgou0yG220422.html http://tv.cctv.com/2022/04/22/VIDEZ7AfeuIFLDJQccu4XfWQ220422.shtml