เจนีวา, 30 ม.ค. (ซินหัว) — เทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” (PHEIC) ทั้งนี้ กีบรีเยซุสแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมภายในของคณะกรรมการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Committee) เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) เน้นย้ำว่าองค์การอนามัยโลกไม่แนะนำหรือกระทั่งคัดค้านการกำหนดข้อจำกัดการเดินทางหรือการค้ากับจีน
กฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR) ระบุว่าผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ มีอำนาจตัดสินใจว่าการระบาดเป็นภาวะฉุกเฉินฯ หากสถานการณ์ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยการประกาศภาวะฉุกเฉินฯ มีเป้าหมายระดมทรัพยากรระหว่างประเทศมารับมือกับการระบาดเพิ่มขึ้น
นับตั้งแต่กฎอนามัยระหว่างประเทศถูกบังคับใช้เมื่อปี 2007 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหลายครั้ง ด้านกีบรีเยซุสชี้ว่าสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน สั่งการและจัดสรรความพยายามป้องกันและยับยั้งการระบาดด้วยตัวเอง
“ความรวดเร็วของจีนในการตรวจจับการระบาด คัดแยกเชื้อไวรัสฯ เรียงลำดับจีโนม และแบ่งปันข้อมูลกับองค์การฯ และโลกนั้นเป็นเรื่องน่าประทับใจ ความมุ่งมั่นของจีนในการสร้างความโปร่งใสและให้การสนับสนุนประเทศอื่นๆ” กีบรีเยซุสกล่าว
“จีนกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ในการรับมือกับโรคระบาด” กีบรีเยซุสกล่าว พร้อมเสริมว่าไม่เพียงสะท้อนความรับผิดชอบของจีนต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนในประเทศ แต่ยังส่งเสริมการป้องกันและควบคุมโรคในระดับโลกด้วย
กีบรีเยซุสแสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะยับยั้งโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเอาชนะมันได้ในท้ายที่สุด โดยความพยายามของจีนในการต่อสู้กับโรคระบาดสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม รวมถึงเป็นสิ่งที่มีค่าต่อการเรียนรู้
ข้อเท็จจริงคือมาตรการป้องกันและยับยั้งโรคระบาดที่จีนบังคับใช้นั้นมากเกินกว่าข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องของการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงส่งผลดีต่อประเทศจีน แต่ยังครอบคลุมโลกที่เหลือทั้งใบ
กีบรีเยซุสกล่าวว่าบางประเทศที่มีระบบสาธารณสุขเปราะบางควรเพิ่มมาตรการรับมือกับโรคระบาด ขณะสถานการณ์การระบาดในปัจจุบันยังคงดำเนินไปและยังต้องการการวิจัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นเหตุผลหลักของการประกาศภาวะฉุกเฉินฯ
หากคำนึงถึงความมั่นคงทางสาธารณสุขระดับโลก ขั้นตอนสำคัญคือการดำเนินมาตรการรับมือที่ตรงตามหลักวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผล และสุขุมรอบคอบ ตลอดจนช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ดำเนินมาตรการลักษณะเดียวกันเพื่อป้องกันโรคระบาด
ด้านอู๋จวินโหยว หัวหน้านักระบาดวิทยาประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน กล่าวว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเป็นธรรมเนียมปฏิบัติพื้นฐานขององค์การอนามัยโลก
“มาตรการป้องกันและควบคุมของจีนในปัจจุบันถือว่ามีความเข้มงวดมากที่สุดและมีประสิทธิภาพอย่างมาก เรามั่นใจว่าเราสามารถยับยั้งการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะเอาชนะมันได้ในท้ายที่สุด”